Search This Blog

Saturday, July 31, 2010

เหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงต้องทำอย่างนี้

ครั้งแรกที่ฉันได้เข้ามายังประเทศไทย ตอนนั้นเพิ่งจะถอนตัวจากธุรกิจเทคโนโลยีเลเซอร์ในสิงคโปร์
ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้ทำในสิ่งที่ฉันทำอยู่ในขณะนี้
ตอนนั้นฉันคิดว่าจะไปวาดภาพ เขียนหนังสือและได้ผ่อนคลาย
ทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัวฉันเป็นเหมือนเหตุการณ์เกินกว่าที่จะจินตนาการณ์ได้ ฉันได้ดำเนินชีวิตในที่ๆหรูหรา
มาเป็นเวลานาน และไม่เคยได้มีโอกาสได้พบเห็นชีวิตในชนบท หรือความอยากจนด้วยตาของตัวเองเลย
ฉันรู้สึกช็อก เมื่อได้มาเดินถนนในกรุงเทพ (1988/9) ได้เห็นชีวิตคนมากมายถูกข่มเหง และอยู่ในสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
ฉันได้ย้ายครอบครัวอันประกอบด้วย สุนัข 19 ตัว,แมว 12 ตัว,เป็ดและกระต่ายจากสิงคโปร์เมื่องที่สะอาดไร้จุดด่างพร้อย ดังนั้นฉันจึงพยายามหลบหนีจากวัฒนธรรมอันหน้าตกใจนี้โดยการย้ายมาอยู่เชียงใหม่เมืองเล็กๆในความคิดของฉันในตอนนั้น ชีวิตส่วนใหญ่ของฉันมักจะอยู่ในเมืองใหญ่ๆ ดังนั้นการย้ายมาอยู่เชียงใหม่ของฉันจึงเหมือนกับการผจญภัยอันยิ่งใหญ่
ในไม่ช้าฉันก็ได้มาถึงเชียงใหม่ เมื่อได้รับการติดต่อจากดอกเตอร์ กรรณชัย จากสวนสัตว์เชียงใหม่ เพื่อให้ไปทำงานที่นั่น เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าฉันมี่ประสบการณ์ 10 ปีในการเป็นอาสาสมัครดูแลสัตว์ป่าที่สวนสัตว์สิงคโปร์ และ ประสบการณ์ 2 ปี ในกรุงเทพโดยทำงานร่วมกับดอกเตอร์ พิชัย อาจสงค์กูล/มหาวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์ โดย คุณ จำลอง ศรีเมือง โครงการช่วยสุนัขจรจัดที่หลักสี่
ช่วง 5 ปีแรกในเชียงใหม่ฉันได้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครดูและสัตว์ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ ฉันใช้เวลาส่วนใหญ่ ตลอด 24 ชั่งโมงในที่ทำงาน โดยจะได้ติดต่อแค่พนักงาน สัตว์ ผู้เข้าเยี่ยมชม และเพื่อนบ้านที่บ้านสวนนนทรี อาจารย์ พิมพ์สุข ที่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของฉัน
วันหนึ่งพิมพ์สุขได้เข้ามาพบฉันพร้อมทั้งลิงที่อยู่ในกล่องมาด้วย มันมีสุขภาพที่แย่มาก มีแผลเต็มตัว และกระดูกหัก มันถูกทำร้ายโดยชายที่ทำงานอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ระหว่างที่พิมพ์สุขกำลังเขาคิวรับใบสั่งยา เธอเห็นประตูเปิดอยู่และชายคนนี้ออกมาพร้อมลิง โดยที่ชายคนนี้ใช้ไม้ตีลิงจนกระดูกหัก
คุณนั้นพิมพ์สุขเป็นภรรยาของสัตว์แพทย์จึงวิ่งเข้าไปปกป้องมัน
โดยคนที่อยู่แถวนั้นเพิกเฉยต่อเหตูการณ์ที่เกิดขึ้น เธอถ้าชายคนนั้นว่าทำไมถึงทำอย่างนี้ เขาตอบว่าเขาได้ไปซื้อลิงตัวนี้มาจากตลาดเมื่อเช้าและจะนำกลับไปที่หมู่บ้านเย็นนี้เพื่อไปกินเป็นอาหาร เขาเลยเอามันมาเก็บไว้ที่สำนักงานช่วงที่เขาต้องไปทำงาน และเมื่อเขากลับมา มันกับพังสำนักงานเสียหายหมด
ตอนนี้เขาโกรธมาก พิมพ์สุขจึงขอซื้อมันมาจากชายคนนั้นและนำมาให้ฉัน
ฉันจึงนำมันกลับไปที่สวนสัตว์เพื่อวางยาสลบและทำการเอ็กซ์เรย์ มันมีรอยแตกร้าวถึง 17 ที่ ปอดถูกทิ่ง สมองช้ำ มันเกือบจะตายในทันทีเราจึงตัดสินใจให้มันหลับอย่างสงบ มันถูกกระทำอย่าโหดร้ายรุ่นแรงเกินกว่าสิ่งมีชีวิตที่บริสุทธิ์จะรับได้ ฉันร้องไห้ตลอดทั้งคืน
ช่วงบ่ายหลังจากนั้นพิมพ์สุขโทรหาฉันแล้วเล่าว่า "แมรี่แอนด์ฉันมีเรื่องแปลกจะเล่าให้ฟัง-ชายคนที่ตีลิงได้รับอุบัติเหตุทางรถมอเตอร์ไซด์ที่หลังหมู่บ้านของเขาเมื่อคืนนี้ ตอนนี้เขากลับเข้าโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษากระดูกแตกทั้ง 17 ที่ของเขา!
สำหรับกรณีของชายคนนี้กรรมตามสนองเขาเร็วมาก
กรรม..อืมฉันเริ่มที่จะเรียนรู้ถึงวัฒนธรรมความเชื่อของคนไทยแล้ว
บางอย่างที่ฉันต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
และกี่ยวกับเรื่องนี้ในภายหลัง
ตอนนี้ฉันต้องทำกรรมของฉันให้สมหวัง โดยการไปตลาดนัดจัตุจักร และทำหนึ่งเสียงเพื่อสัตว์ดำเนินต่อไป
เจอกันที่นั้นนะ มีบัตรสมาชิกจำหน่ายด้วยค่ะ

No comments:

Post a Comment