Search This Blog

Friday, February 4, 2011

Campaign for Animal Welfare must go ALL THE WAY! โครงการรณรงค์ กองทุนสวัสดิการสัตว์ ต้องทำให้สำเร็จสู่เป้าหมาย เพื่อเป็นความหวังของสัตว์ร่วมโลกทั้งหลาย

Love Animal House as an animal welfare advocate, a voice for the animals; is concerned about the wellbeing of ALL SPECIES, including human.
There is no species that is of more importance than another.
All lifeforms feel pain & discomfort equally and want to live their lives without it.

บ้านรักสัตว์ (รักสัตว์ คาเฟ่) เป็นตัวแทนผู้สนับสนุนและกล่องเสียงให้สัตว์และมนุษย์ว่าเราเป็นสิ่งมีชีวิตร่วมโลกที่รับรู้ความรู้สึกเจ็บปวด ความป่วยได้เหมือนกัน และสามารถอยู่ร่วมกันได้ด้วยความรัก ความเมตตา อย่างปราศจากความแตกต่างของสายพันธุ์

It is our duty as higher consciousness beings to protect those who are being abused.
It is our moral duty - especially since we ask that meat animals sacrifice themselves for us.
We must make steps towards the end of exploitation of all living beings so that our consciousness
can become 'guilt free'. We must become CONSCIOUS CONSUMERS and ask; where is it all coming from? How much suffering went into my dinner? How much 'karma' has gone into my essence - my soul?

มนุษย์ซึ่งเป็นสัตว์ที่ประเสริฐกว่าควรมีจิตสำนึกและมีความเมตตาที่จะปกป้องสัตว์ที่ถูกทำร้าย และสัตว์ที่ถูกทรมานโดยมนุษย์ที่ไม่ได้คำนึงถึงความเจ็บปวดที่สัตว์เหล่านั้นได้รับ และคนเหล่านั้นก็ไม่ได้คำนึงถึงว่า จิตสำนึกแบบมนุษย์คืออย่างไร? ต้องดูที่คุณธรรมขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนต้องมีติดตัวมา คือ มนุษยธรรมการแสดงออกถึงความมีเมตตากรุณา และ มโนธรรมการแสดงออกถึงการไม่เบียดเบียนชีวิต ก็ย่อมทราบได้ว่ากรรมใดก็ตามที่เพิ่มพูนมนุษยธรรมและมโนธรรม กรรมนั้นจะสนับสนุนให้สภาวะจิตเรานั้นอยู่เป็นปกติ เห็นบาปเป็นบาปได้ สำนึกผิดได้ ไม่อยากทำบาปได้


Who says animals are not spiritual beings? Their inner life is in fact deeper and more in tune with natural elements than 98% of most humans. Humans go through life half conscious letting everything & everyone around influence their daily habits.
แล้วใครบอกล่ะว่าสัตว์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่มีจิตวิญญาณเหมือนพวกเรา? ตรงกันข้าม จิตของสัตว์กลับสามารถสัมผัสเข้าถึงพลังหรือปรากฏการณ์ตามธรรมชาติได้ลึกมากกว่ามนุษย์ถึง 98%

คนเรากำลังดำเนินชีวิตด้วยความประมาท ไม่ได้ใช้ชีวิตเต็มที่ด้วยจิตสำนึกแบบมนุษย์ที่ควรเป็นแต่กลับสร้างความเคยชินของตนขึ้นจากอิทธิพลของสิ่งของวัตถุและคนรอบข้าง


 WE NEED TO THINK MORE DEEPLY ABOUT WHO WE REALLY ARE AND WHY WE EXIST!
เราต้องใช้สติทบทวนให้ลึกซึ้งมากขึ้นว่า มนุษย์เราเป็นใคร? และเพราะอะไรที่มนุษย์ดำรงอยู่?

            Look at these poor city dogs forced to Q to have a pee at an 'organic dog toilet' in a park!
With all the forests being cleared to create grazing land for meat production a Big Mac translates into
4 square km's! Bite into that my friend. Carnivores are devouring the planet at rapid speed!

The world needs to be balanced in order to sustain itself, just as we do. This can only come about if we consciously reach for harmony within ourselves.

ภาพนี้เห็นแล้วคนบางคนต้องอาย เพราะขนาดหมาจรจัดยังสามารถมีวินัยในการเข้าแถวฉี่ให้เป็นปุ๋ยกับต้นไม้ต้นหนึ่งในสวนสาธารณะได้
แต่มนุษย์กลับทำลายป่า อย่างเช่นการถางป่าเนื้อที่ 4 ตารางกิโลเมตรเพื่อสร้างโรงงานฆ่าและผลิตเนื้อสัตว์แทนการอนุรักษ์ต้นไม้


มษุษย์จะดำรงอยู่ได้ก็ต้องมีความสมดุลย์ของโลก และความสมดุลย์นั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมนุษย์เราใช้สติ มีการตระหนักรู้เพื่อการเข้าถึงซึ่งความเป็นอิสระกลมกลืนกับธรรมชาติภายในตัวของเราเอง



We must make a decision that we love life and all that LIFE has to offer, which includes LOVE,
FRIENDSHIP AND WELLBEING.
We must adapt an attitude that everything matters even the smallest detail,
for it is in the little things that we see the magnitude of life.

ทางเลือกของมนุษย์ คือการรักชีวิตและทุกๆสิ่งที่ชีวิตเสนอให้เราซึ่งนั่นรวมถึง ความรัก มิตรภาพ และการดำรงอยู่อย่างปกติสุข

ปรับความคิดและทัศนคติกันเถิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีแก่นสารสาระ มีความหมายแม้กระทั่งรายละเอียดที่เล็กน้อย เพราะในรายละเอียดเล็กๆนั่นแหละที่เราจะเห็นภาพอันยิ่งใหญ่ของชีวิตได้


Tuesday, February 1, 2011

Time to join Hands & Hearts! .... (Thai)

ถึงเวลาแล้วที่เราต้องร่วมมือร่วมใจกัน


มนุษย์เราต้องถามตัวเองกันแล้วล่ะว่าอนาคตของโลกที่สิ่งมีชีวิตต่างๆอาศัยอยู่จะดำเนินต่อไปอย่างไร คนส่วนหนึ่งก็คิดไปว่าโลกของเรากำลังเดินเข้าสู่จุดล่มสลายด้วยภัยพิบัติและความแปรปรวนของธรรมชาติดังเหตุการณ์ต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้และที่จะเกิดขึ้นในปี 2012  ความจริงคือเรากำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ ความดับสลายของธรรมชาติที่ตกต่ำและถูกทำลายมานานหลายทศวรรษ ความดับสลายของการมีตัวตนอยู่ของสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้..ของวงจรชีวิต  ดังเช่นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเพื่อสนองความต้องการในการบริโภคของมนุษย์ แต่ถ้าเราช่วยกันเปลี่ยนวิธีการคิดจากความเห็นแก่ตัวแก่ตนของคน เป็นการให้มีความต้องการที่จะดำรงอยู่อย่างสอดคล้องและร่วมกับธรรมชาติรวมถึงสรรพสัตว์ทั้งหลาย ด้วยความรัก ความมีเมตตา กรุณา ปราณี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เราก็อาจจะรอดจากวิกฤตต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นเพราะความไม่สมดุลย์ของธรรมชาติได้



เวลามาถึงแล้วที่คนไทยเราควรจะรีบรณรงค์ให้ความรู้เพื่อ การพัฒนา ให้ความเข้าใจ กับธรรมชาติและสัตว์ต่างๆ ในการดูแล รักษา และปกป้องการทำทารุณกรรมต่อสัตว์ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ส่วนรวม และโลกที่ขาดความสมดุลย์ของเรา

รักสัตว์ คาเฟ่ (Love Animal House)
 แต่เดิมได้ถูกจัดตั้งขึ้นที่แม่ริมเพื่อเป็นศูนย์รับบริจากเงินและสิ่งของสำหรับสัตว์ จะย้ายมาใช้สถานที่ใหม่ ณ บริเวณลานนิทรรศการ เจ เจ กู๊ดเทส มาร์เก็ตโดยได้รับความอนุเคราะห์จากผู้บริหาร และร่วมกับ ร้านอาหาร บี มาย เกสท์ โดยมีคุณปุ๊ นิรัสสา (Nina) ซึ่งเป็นเจ้าของร้านและรับหน้าที่อาสาเป็นผู้จัดการดูแลศูนย์ของเรา ที่จะพร้อมให้บริการแก่สมาชิกและดำเนินกิจกรรมต่างๆที่ทาง รักสัตว์ คาเฟ่ จะจัดขึ้นในเวลาอันใกล้นี้ อาทิเช่น นิทรรศการการให้ความรู้ต่างๆ โครงการ ออกกำลังกาย แสดงศิลปะ โพรแกรมสัมนาพัฒนาตนเอง และ Bi-Nural Brain Entrainment Therapy  เพื่อสมาชิกและผู้ให้การสนับสนุนอื่นๆมีส่วนร่วมทำกิจกรรมร่วมกัน

รักสัตว์ คาเฟ่ จะเริ่ม (ประมาณเดือนมีนาคม) ด้วยการจัดนิทรรศการให้ความรู้ ความเข้าใจในการดูแล รักษา เลี้ยงดู รวมถึงสวัสดิการสัตว์  และให้คนไทยเราเข้าใจว่าทำไมถึงมีความจำเป็นที่ต้องมีการรณรงค์ในเรื่องนี้ให้ประสบความสำเร็จในประเทศของเรา  พร้อมๆกันกับการทำโพรโมชั่นเพื่อขอการสนับสนุนตามสถานที่ต่างๆในเมืองเชียงใหม่ โดยกลุ่มนักศึกษาอาสาสมัคร ร่วมกับ Teddy the Bear.


รายได้จากการบริจากส่วนหนึ่งจะนำไปใช้เพื่อผลิต เสื้อยืด งานศิลปะอื่นๆที่เกี่ยวกับสัตว์ และพิมพ์หนังสือ เพื่อจำหน่ายที่ศูนย์ และเมื่อมีเงินบริจากมากพอพวกเราอาจจะได้มีส่วนร่วมในการซื้อชีวิตให้กับสัตว์ที่รอความเมตตาจากมนุษย์ที่เหลือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น


ในขณะนี้ รักสัตว์ คาเฟ่ อยู่ในระหว่างการรวบรวมและสรุปเอกสารต่างๆเพื่อการติดต่อ Online ให้เสร็จภายในวันที่ 3 ก.พ. นี้ซึ่งเป็นวันแรกของปีกระต่าย ขอให้เรากระโดดไปพร้อมๆกันในปีแห่งความสำเร็จ ความสุข สมหวัง และความเจริญรุ่งเรือง  และขอให้คนไทยมีความรัก ความเมตตา กรุณา ปราณี แก่สัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลาย แก่ชีวิตทุกชีวิตบนโลกใบนี้ แก่ธรรมชาติเพื่อให้โลกกลับคืนความสมดุลย์เพื่อความสมดุลย์แห่งวงจรชีวิต.



ส่งกอดด้วยความรักให้กับทุกๆท่าน
ขอให้ติดตาม บล็อก ในวันต่อๆไปเพื่อรับข่าวสารที่ควรรู้ ข้อมูลที่มีประโยชน์ และความคืบหน้าของ รักสัตว์ คาฟ่

แมรี่แอน